ซึ่งกระบวนการแปรรูปนั้นก็แบ่งออกเป็น 3 วิธีหลักคือ
1. Natural Process (Dry process)
2. Washed Process (Wet process)
3. Honey Process (Semi Process)
วันนี้เรามาทำความรู้จักกับวิธีการแปรรูปแบบแรก คือ Natural Process กันค่ะ
Natural Process หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า Dry Process นั้น ถือว่าเป็นการแปรรูปที่เก่าแก่ที่สุดของประวัติศาสตร์กาแฟก็ว่าได้ เป็นการแปรรูปแบบตรงไปตรงมา ซึ่งกระบวนการแบบ Natural Process นั้นจะเริ่มจากการนำผลกาแฟที่ถูกเก็บเกี่ยวไปแตกแดดพร้อมกับเปลือกกาแฟ โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 15-30 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศของแต่ละประเทศ เมื่อผลกาแฟแห้งได้ที่แล้วจึงนำมาสีแยกผลกาแฟแห้งออกมาเป็นเมล็ดกาแฟสาร ซึ่งการแปรรูปแบบนี้มักจะทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติ โทนผลไม้สุก, หรือ ผลไม้ตากแห้ง มีความหวานฉ่ำเพราะเมือกที่อยู่ด้านในเปลือกผลกาแฟนั้นถูกดูดซึมเข้าสู่เมล็ดกาแฟ
ถึงแม้ Natural Process จะฟังดูเหมือนง่าย แต่แอดมินบอกก่อนเลยนะจ๊ะว่าการแปรรูปแบบ Natural Process นั้นต้องอาศัญความชำนาญและเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เพราะระหว่างการตากแห้งนั้น ผู้แปรรูปต้องคอยเกลี่ยและกลับกาแฟอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราหรือระดับการหมักที่มากเกิน เพราะอาจจะทำให้รสชาติของเมล็ดกาแฟนั้นเสียหายได้ อุณหภูมิและสภาพอากาศของแต่ละวันยังส่งผลโดยตรงต่อระยะเวลาในการตากแห้งอีกด้วย หากดูแลไม่ทั่วถึงหรือควบคุมไม่ดีพอก็อาจทำให้เกิดการตากแห้งอย่างผิดวิธี ซึ่งสามารถส่งผลให้ผนังของเซลล์เมล็ดกาแฟเสียหายได้ ทำให้เมล็ดกาแฟเหล่านั้นเก่าและรสชาติจางลงไปอย่างรวดเร็ว